การจดทะเบียนบริษัท เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การก่อตั้งบริษัทของเรามีตัวตนอย่างเป็นทางการและดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย ซึ่งมีให้เลือกจดทะเบียนอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ แบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน แต่โดยหลัก ๆ แล้วเพื่อทำระบบบริษัทให้มีความเป็นระเบียบ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ ใครที่สนใจหรือมีแพลนอยากจดทะเบียนบริษัท ในวันนี้เรานำขั้นตอนแบบรวบรัดมาแนะนำ
ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่อยากจดทะเบียนบริษัท แต่ไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นอย่างไร เราขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามนี้
1. จองชื่อตั้งชื่อบริษัทที่ต้องการใช้ในการจดทะเบียน
สมัครงานขายในการจดทะเบียนสามารถยื่นจองได้สูงสุด 3 ชื่อ โดยพิจารณาตามลำดับหากชื่อแรกซ้ำไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาชื่อในลำดับถัดไป ซึ่งสามารถดำเนินการจองชื่อเพื่อจดทะเบียนบริษัทได้ 2 รูปแบบ คือ
- จองผ่านอินเทอร์เน็ตกรอกข้อมูลที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th
- ยื่นด้วยตนเองต่อนายทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในเขตที่เราอาศัยอยู่ ในกรณีที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถยื่นได้ที่สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด
2. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและยื่นต่อนายทะเบียน
เมื่อได้ชื่อเป็นที่ถูกใจเรียบร้อยแล้ว ต้องมีการแจ้งความประสงค์ในการจัดตั้งบริษัท โดยระบุรายละเอียดจำนวนหุ้น วัตถุประสงค์ และข้อมูลของผู้ก่อตั้งตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปอย่างชัดเจน รวมถึงชื่อบริษัทที่ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า “บริษัท” และลงท้ายด้วยคำว่า “จำกัด” และระยะเวลาในการยื่นหนังสือบริคณห์สนธิ ต้องดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเวลา 30 วัน นับตั้งแต่นายทะเบียนแจ้งผลการรับรองชื่อบริษัท
3. นัดประชุมเพื่อจัดตั้งจดทะเบียนบริษัท
การจดทะเบียนบริษัท เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ก็ใช่ว่า อยากจะจดก็จด โดยที่ไม่มีการจัดตั้งเลือกคณะกรรมการขึ้นมาดูแลรับผิดชอบในส่วนนี้ เพราะอาจทำให้มีปัญหาตามมาในภายหลัง ดังนั้นหลังจากที่ได้ดำเนินการจดทะเบียนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ต้องมีการตั้งกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัทขึ้นมาทำการเลือกผู้ตรวจสอบบัญชี ตั้งคณะกรรมการบริษัทและอำนาจของคณะกรรมการ เพื่อทำการตรวจสอบและรับรองงบการเงิน (โดยผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งต้องเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น)
4. ดำเนินการตามมติในองค์ประชุม
หลังจากที่พูดคุยตกลงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ภายในบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องเลือกคณะกรรมการมาควบคุมการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในนามของบริษัท เพื่อให้มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ โดยคณะกรรมการมีหน้าที่ในการเรียกเก็บชำระค่าหุ้นอย่างน้อย 25% ของราคาจริง เพื่อนำไปยื่นจดทะเบียนภายในระยะเวลา 3 เดือน หากดำเนินการล่าช้าจะถือว่า การประชุมเป็นโมฆะและต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นใหม่
5. จ่ายค่าธรรมเนียม
ประกอบไปด้วย
- ค่ารับรองสำเนาเอกสารหน้าละ 50 บาท
- ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนฉบับละ 100 บาท
- ค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือรับรองฉบับละ 200 บาท
- ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนบริษัทคิดตามทุนการจดทะเบียนแสนละ 500 บาท ขั้นต่ำในการชำระต้องไม่น้อยกว่า 5,000 บาทและสูงสุดไม่เกิน 250,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิจะคิดจากเงินทุนจำนวนแสนละ 50 ขั้นต่ำ 500 สูงสุด 25,000 บาท
6. รับหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
เมื่อแต่งตั้งนายทะเบียนได้รับการจดทะเบียนบริษัทและมอบหนังสือรับรองให้แก่ผู้ที่ต้องการก่อสร้างแล้ว บริษัทจะถือว่า ถูกตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ และมีหน้าที่ต่าง ๆ ตามที่บริษัทควรมีทุกประการ
การจดทะเบียนบริษัทไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยการเตรียมข้อมูลเอกสารและข้อตกลงต่าง ๆ ที่มีการพูดคุยกับทางผู้ถือหุ้นแต่ละคนว่า จะเข้ามาเป็นเจ้าของหุ้นเท่าไหร่ มากน้อยแค่ไหน ก่อนที่จะตัดสินใจจดทะเบียนบริษัท พร้อมตั้งคณะกรรมการสำหรับการควบคุมและดูแลเกี่ยวกับการดำเนินการโดยเฉพาะ เพื่อให้การบริหารและจัดการมีความยุติธรรม ไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง